ทริปนี้ที่วัดทิโลมินโล

myanmar-0018

กรุ๊ปทัวร์พม่ากลับมาพบกับท่านๆอีกครั้ง แน่นอนว่าจะก็จะพาท่านไปชมกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของประเทศชาติพม่า ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าเกินจริง ซึ่งแม้แต่ทัวร์พม่าเองไปชมก็อดทึ่งไม่ได้ หลายๆคุณคงจะเคยไปเที่ยวประเทศชาติพม่าแต่น่าจะยังไม่เคยได้ไปเที่ยวที่วัดทิโลมินโลล่ะก็  วันนี้ทัวร์พม่าจะก็จะพาท่านไปชมเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนแล้วกัน

วัดทิโลมินโล (Htilominlo Pagoda ) ที่สันนิษฐานว่า น่าจะน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า ไตรโลกมงคล ทำโดยพระเจ้าติโลมิโล เมื่อปี พ.ศ 1761 ซึ่งได้รับการให้เกียรติว่ามีความ สวยงามมากมายทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะปูนปั้นบริเวณฐานด้านนอก วิหารนันปยะ ( Nanpaya ) ตามตำนานกล่าวว่าเป็นที่ประทับของพระเจ้ามนูหะ ซึ่งพระเจ้า อโนรถา ทรงจับเป็นเชลยมาจากเมือง สะเทิน ทำด้วยอิฐและสอดินแต่พื้นปูเช่นกันหิน มี แผนผังคือรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสพร้อมด้วยมีมุขยื่นยาวออกไปทางทิศตะวันออก ใกล้กับแท่นบูชา ภายในอาคารมีเสาหิน 4 เสา พร้อมทั้งบนแต่ละด้านของเสาก็สลักลายดอกไม้รูปสามเหลี่ยมพร้อมกับ เทวรูปพระพรหมทรงถือดอกบัวอยู่ในแต่ละหัตถ์ งานประดับภายนอกอาคารที่น่าชอบยิ่ง เป็น บานหน้าต่างเป็นช่องปรุทำจากศิลา อันเป็นแบบอย่างพร้อมกับกรรมวิธีของงานงางพุกามใน ส่วนที่เชื่อว่ารับประเพณีมอญ ทั้งนี้ประกอบถึงลวดลายที่ประดับกรอบของหน้าต่างพร้อมกับส่วน อื่นของผนังอีกด้วยพระเจดีย์ธรรมยาจี ทำขึ้นไปในรัชสมัยของพระเจ้านรถุ (พ.ศ. 1710 – 1713) เจดีย์อานันทะ (นามดังเดิมเป็น อนันตปัญญา) คือวิหารทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสมีมุขเด็จ ออกไปเท่ากันทั้ง 4 ด้านแต่ละด้านมีซุ้มคูหาประดิษฐานพระพุทธรูปทรงสูง 10 เมตร ใหญ่โตสูงสง่าพร้อมด้วยคือศิลปะพระพุทธรูปต้นแบบสมัยพุกามดั้งเดิม เจดีย์สัพพัญญู (THATBYINYU) เป็นวิหารสูงที่สุดในพุกามทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส มีความสูง 201 ฟุต เป็นวัดประจำรัชกาลพระเจ้าอลองสินธทำเลียนแบบวัดในประเทศอินเดีย สูงห้า ชั้นโดยชั้นที่สี่คือที่ประดิษฐานพระไตรปิฎกฉบับต้นแบบพร้อมทั้งชั้นที่ห้าคือองค์พระสถูปอัน ศักดิ์สิทธิ์ พระเจดีย์กูบยางคยี (GUPYAUKKYI PAGODA) ที่ทำโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิธะในราวปี พ.ศ. 1656 พระเจดีย์แห่งนี้สร้างแบบศิลปะของพยูหรือเปล่าพุกามตอนต้น ภายใน พระเจดีย์ท่านจะอาจได้ชมจิตรกรรมฝาผนังที่สวยที่สุดของเมืองพุกามที่คงคง หลงเหลืออยู่ พระเจดีย์มิงกาลา

ชมทัศนียภาพของอาณาจักรพุกามจากมุมสูง จากสถานที่ แห่งนี้ ท่านจะคงจะได้พบกับพระเจดีย์น้อยใหญ่โควตามากๆที่เป็นที่มาของชื่อ ดินแดนแห่งพระเจดีย์สี่พันองค์พระวีคตกริมฝังแม่น้ำอิรวดีที่พระเจดีย์บุพะยา (BUPAYA PAGODA) ซึ่งจะคงจะส่งผลให้คุณปลาบปลื้มมิรับรู้ลืม ช้อปปิ้งของซื้อของขายพื้นเมืองจำพวกเครื่องเขิน (LACQUERWARE ) ในพื้นที่หมู่บ้าน พุกามใหม่ (New Bagan) ซึ่งดำเนินธุรกิจการค้าเชื่อมต่อยาวนานกว่า 1,000 ปี

มิงกุน มิงกุนตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำเอยาวดี ทางตอนบนสุดของทิวเขา ที่โอบล้อมเมืองสกายน์เอาไว้ ที่นี่มีระฆังใบใหญ่ที่สุดในโลก ที่ยังคงสภาพดีเยี่ยม กับพระเจดีย์ขนาดมหึมา ที่คงสร้างไม่เสร็จอีกองค์หนึ่ง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของเขามัณฑะเลย์ ห่างไปกว่า 10 กิโลเมตรมิงกุน ไม่ใช่ราชธานี ที่ประทับของกษัตริย์อย่างอินน์วะ กับอมรปุระ แต่ก็มีความสำคัญในตัวเอง พร้อมกับมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าชอบเยอะ หมู่บ้านเรือนแห่งนี้ เข้ามาได้โดยทางน้ำแค่นั้น โดยจะก็จะมีเรือ อกจากมัณฑะเลย์ทุกวัน พร้อมด้วยใช้เวลาเดินทาง ราวหนึ่งชม.แค่นั้น ถ้าคุณไม่ได้โดยสารเรือกลไฟเยาวดี จากมัณฑะเลย์มายังปะกั่น อย่างน้อย ก็น่าจะอาจจะลองนั่งเรือ เพื่อจะการเดินทาง ในช่วงนี้ดู จะอาจจะได้ชมวิถีชีวิต ของชาวบ้านบนลำน้ำสายนี้ จากมยิตจีนากับปะเต่งลงมายังย่างกุ้ง เมืองมิงกุน เจดีย์ยักษ์มิงกุนเจดีย์องค์นี้หากสร้างสำเร็จก็จะจะมีความสูงถึงราว 165 เมตร พร้อมด้วยจะจะคือเจดีย์ที่ใหญ่ที่ สุดในประเทศพม่า อย่างไรก็ดีเมื่อพระเจ้าปะดุงสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. 2362 เจดีย์องค์นี้ก็ถูกทอดทิ้งไม่มีการสร้าง คงเหลือไว้เป็นกองอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากนั้นชม ระฆังยักษ์มิงกุนซึ่งพระเจ้าปะดุงทรงทำไว้ คือระฆังสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า น้ำหนักประมาณ 90 ตัน ระฆังนี้สูง 4 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ปากกว้างราว 5 เมตร นับว่าเป็นระฆังที่แขวนอยู่ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก พระเจดีย์สินพยุเม ซึ่งพระเจ้าพะคยีดอทรางทำใน พ.ศ. 2359 ก่อนที่จะจะเสด็จขึ้นไปเสวยราชย์ เจดีย์องค์นี้เปรียบเสมือนพระเจดีย์จุฬามณีซึ่งตั้งอยู่เหนือเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องไตรภูมิในพุทธศาสนา

พระเจ้าพะคยีดอทรงสร้างอุทิศแด่พระชายาคือ เจ้าผู้หญิงสินพยุเมที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว แม้จะจะถูกทำลายโดยแผ่นดินไหว แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมและทุกวันนี้ยังคงอยู่ในสภาพดี มัณฑะเลย์ เคยเป็นราชธานีของเขตพม่าบน แต่กลับมีอายุเก่าแก่ ไม่ถึง 150 ปี ดี พร้อมกับเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เมือง ของพม่าที่คงคง ใช้นามเดิมเรื่อยมาโดยไม่มีการปรับแต่งคำเรียกจัดหาแต่อย่างใด นาม มัณฑะเลย์ ได้ยินดูเก่าแก่โบราณพอๆ กับ แม่น้ำเอยาวดี (อิระวดี) ที่ทอดสาย ไหลเอื่อยผ่านตัวเมืองแห่งนี้ เสน่ห์ของมัณฑะเลย์ อยู่ที่การเป็นราชธานีแห่งสุดท้ายของ พระราชวงศ์พม่า หมู่สถูปเจดีย์ ที่มีให้เห็นอยู่ทั่ว ทุกหนทุกแห่ง พร้อมทั้งมนุษย์ที่มีชีวิตชีวา เปี่ยมไปเช่นกัน น้ำใจไมตรี มัณฑะเลย์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงย่างกุ้ง ห่างเหินขึ้นไปมา 620 กิโลเมตร พร้อมกับอยู่สูง เหนือระดับน้ำทะเล 80 เมตร ชาวพม่าถือว่า ตราโลโก้ทางประเพณีและพุทธศาสนา ทั้งในโบราณกาลและเดี๋ยวนี้ ของพม่า เป็นมัณฑะเลย์ใจกลางเมืองมี ท้องตลาดเซโจ เป็นศูนย์กลาง การค้าขาย ในเขตพม่าบนช่างฝีมือของที่นี่ ผลิตงานฝีมือตามวิธีโบราณ อีกด้วยทอง เงิน หินอ่อน กับสิ่ว เส้นด้าย พร้อมทั้งหูกทอผ้า สองฝั่งน้ำเอยาวดี มีท่าเรือคั่นอยู่เป็นระยะ เรือขนข้าวขึ้นไปล่องผ่านไปมา ไม่ขาดสาย มัณฑะเลย์ เคยเป็นราชธานีของเขตพม่าบน แต่กลับมีอายุเก่าแก่ไม่ถึง 150 ปีดี พร้อมด้วยเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เมืองของพม่า ที่คงยัง ใช้นามเดิมเรื่อยมาโดยไม่มีการปรับแต่งคำเรียกแต่อย่างใด ชื่อมัณฑะเลย์ ฟังดูเก่าแก่โบราณพอๆกับ แม่น้ำเอยาวดี(อิระวดี) ที่ทอดสายไหลเอื่อยผ่านตัวเมืองแห่งนี้ เสน่ห์ของมัณฑะเลย์ อยู่ที่การคือราชธานีแห่งสุดท้ายของพระราชวงศ์พม่า หมู่สถูป -เจดีย์ที่มีให้เห็นอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง พร้อมด้วยผู้คนที่มีชีวิตชีวาเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ ไมตรีมัณฑะเลย์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงย่างกุ้ง ห่างเหินขึ้นมา 620 กิโลเมตร พร้อมทั้งอยู่สูงเหนืออันดับน้ำทะเล 80 เมตร ชาวพม่าถือว่าตราโลโก้ทางวัฒนธรรมและพุทธศาสนา ทั้งในสมัยก่อนพร้อมทั้งสมัยปัจจุบันของพม่าคือมัณฑะเลย์ ใจกลางเมืองมี ท้องตลาดเซโจ คือศูนย์กลางการค้าในเขตพม่าบน ช่างฝีมือของที่นี่ ผลิตงานฝีมือตามกรรมวิธีโบราณ เช่นกันทอง เงิน หินอ่อน กับสิ่ว เส้นด้าย พร้อมด้วยหูกทอผ้า สองฝั่งน้ำเอยาวดี มีท่าเรือคั่นอยู่คือระยะ เรือขนข้าวขึ้นล่องผ่านไปมา ไม่ขาดสาย สถานที่ท่องเที่ยวในมัณฑะเลย์เจดีย์เจาตอจี (Kyauktawgyi Pagoda ) หรือไม่เรียกว่า วัดหินใหญ่ ภายในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่แกะสลักจากหินอ่อนก้อนเดียว เนินเขามัณฑะเลย (Mandalay Hill ) มีความสูง236 เมตร ซึ่งทางขึ้นไปคือบันไดที่มีหลังคาทอดตัวขึ้นสู่ยอดเขาทั้งหมด 1,729 ขั้น พร้อมด้วยศาลเล็ก ๆ ตั้งอยู่คือระยะ ๆ มีอยู่หลายหลังที่คือผลงานของฤาษีอู่ขั้นตี่ ผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งบนยอดเขามีวิหารหลังใหญ่แห่งแรกที่บรรจุพระบรมธาตุสามองค์ ของพระพุทธเจ้าไว้ คุณจะก็จะสามารถเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองมัณฑะเลย์ ยามวีคอัสดงได้อย่างแจ่มแจ้ง สะพาน อูเป็ง ( U Bien Bridge ) คือสะพานที่สร้างขึ้นไปจากไม้สักที่นำมาจาก พระราชวังในเมืองอังวะ ที่สร้างขึ้นเมื่อ 200 กว่าปี ที่แล้วมีความยาว 1.2 ก.ม