ทริปนี้ที่วัดทิโลมินโล

myanmar-0018

กรุ๊ปทัวร์พม่ากลับมาพบกับท่านๆอีกครั้ง แน่นอนว่าจะก็จะพาท่านไปชมกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งของประเทศชาติพม่า ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่น่าเกินจริง ซึ่งแม้แต่ทัวร์พม่าเองไปชมก็อดทึ่งไม่ได้ หลายๆคุณคงจะเคยไปเที่ยวประเทศชาติพม่าแต่น่าจะยังไม่เคยได้ไปเที่ยวที่วัดทิโลมินโลล่ะก็  วันนี้ทัวร์พม่าจะก็จะพาท่านไปชมเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนแล้วกัน

วัดทิโลมินโล (Htilominlo Pagoda ) ที่สันนิษฐานว่า น่าจะน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า ไตรโลกมงคล ทำโดยพระเจ้าติโลมิโล เมื่อปี พ.ศ 1761 ซึ่งได้รับการให้เกียรติว่ามีความ สวยงามมากมายทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะปูนปั้นบริเวณฐานด้านนอก วิหารนันปยะ ( Nanpaya ) ตามตำนานกล่าวว่าเป็นที่ประทับของพระเจ้ามนูหะ ซึ่งพระเจ้า อโนรถา ทรงจับเป็นเชลยมาจากเมือง สะเทิน ทำด้วยอิฐและสอดินแต่พื้นปูเช่นกันหิน มี แผนผังคือรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสพร้อมด้วยมีมุขยื่นยาวออกไปทางทิศตะวันออก ใกล้กับแท่นบูชา ภายในอาคารมีเสาหิน 4 เสา พร้อมทั้งบนแต่ละด้านของเสาก็สลักลายดอกไม้รูปสามเหลี่ยมพร้อมกับ เทวรูปพระพรหมทรงถือดอกบัวอยู่ในแต่ละหัตถ์ งานประดับภายนอกอาคารที่น่าชอบยิ่ง เป็น บานหน้าต่างเป็นช่องปรุทำจากศิลา อันเป็นแบบอย่างพร้อมกับกรรมวิธีของงานงางพุกามใน ส่วนที่เชื่อว่ารับประเพณีมอญ ทั้งนี้ประกอบถึงลวดลายที่ประดับกรอบของหน้าต่างพร้อมกับส่วน อื่นของผนังอีกด้วยพระเจดีย์ธรรมยาจี ทำขึ้นไปในรัชสมัยของพระเจ้านรถุ (พ.ศ. 1710 – 1713) เจดีย์อานันทะ (นามดังเดิมเป็น อนันตปัญญา) คือวิหารทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสมีมุขเด็จ ออกไปเท่ากันทั้ง 4 ด้านแต่ละด้านมีซุ้มคูหาประดิษฐานพระพุทธรูปทรงสูง 10 เมตร ใหญ่โตสูงสง่าพร้อมด้วยคือศิลปะพระพุทธรูปต้นแบบสมัยพุกามดั้งเดิม เจดีย์สัพพัญญู (THATBYINYU) เป็นวิหารสูงที่สุดในพุกามทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส มีความสูง 201 ฟุต เป็นวัดประจำรัชกาลพระเจ้าอลองสินธทำเลียนแบบวัดในประเทศอินเดีย สูงห้า ชั้นโดยชั้นที่สี่คือที่ประดิษฐานพระไตรปิฎกฉบับต้นแบบพร้อมทั้งชั้นที่ห้าคือองค์พระสถูปอัน ศักดิ์สิทธิ์ พระเจดีย์กูบยางคยี (GUPYAUKKYI PAGODA) ที่ทำโดยพระโอรสของพระเจ้าจันสิธะในราวปี พ.ศ. 1656 พระเจดีย์แห่งนี้สร้างแบบศิลปะของพยูหรือเปล่าพุกามตอนต้น ภายใน พระเจดีย์ท่านจะอาจได้ชมจิตรกรรมฝาผนังที่สวยที่สุดของเมืองพุกามที่คงคง หลงเหลืออยู่ พระเจดีย์มิงกาลา

ชมทัศนียภาพของอาณาจักรพุกามจากมุมสูง จากสถานที่ แห่งนี้ ท่านจะคงจะได้พบกับพระเจดีย์น้อยใหญ่โควตามากๆที่เป็นที่มาของชื่อ ดินแดนแห่งพระเจดีย์สี่พันองค์พระวีคตกริมฝังแม่น้ำอิรวดีที่พระเจดีย์บุพะยา (BUPAYA PAGODA) ซึ่งจะคงจะส่งผลให้คุณปลาบปลื้มมิรับรู้ลืม ช้อปปิ้งของซื้อของขายพื้นเมืองจำพวกเครื่องเขิน (LACQUERWARE ) ในพื้นที่หมู่บ้าน พุกามใหม่ (New Bagan) ซึ่งดำเนินธุรกิจการค้าเชื่อมต่อยาวนานกว่า 1,000 ปี

มิงกุน มิงกุนตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำเอยาวดี ทางตอนบนสุดของทิวเขา ที่โอบล้อมเมืองสกายน์เอาไว้ ที่นี่มีระฆังใบใหญ่ที่สุดในโลก ที่ยังคงสภาพดีเยี่ยม กับพระเจดีย์ขนาดมหึมา ที่คงสร้างไม่เสร็จอีกองค์หนึ่ง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของเขามัณฑะเลย์ ห่างไปกว่า 10 กิโลเมตรมิงกุน ไม่ใช่ราชธานี ที่ประทับของกษัตริย์อย่างอินน์วะ กับอมรปุระ แต่ก็มีความสำคัญในตัวเอง พร้อมกับมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าชอบเยอะ หมู่บ้านเรือนแห่งนี้ เข้ามาได้โดยทางน้ำแค่นั้น โดยจะก็จะมีเรือ อกจากมัณฑะเลย์ทุกวัน พร้อมด้วยใช้เวลาเดินทาง ราวหนึ่งชม.แค่นั้น ถ้าคุณไม่ได้โดยสารเรือกลไฟเยาวดี จากมัณฑะเลย์มายังปะกั่น อย่างน้อย ก็น่าจะอาจจะลองนั่งเรือ เพื่อจะการเดินทาง ในช่วงนี้ดู จะอาจจะได้ชมวิถีชีวิต ของชาวบ้านบนลำน้ำสายนี้ จากมยิตจีนากับปะเต่งลงมายังย่างกุ้ง เมืองมิงกุน เจดีย์ยักษ์มิงกุนเจดีย์องค์นี้หากสร้างสำเร็จก็จะจะมีความสูงถึงราว 165 เมตร พร้อมด้วยจะจะคือเจดีย์ที่ใหญ่ที่ สุดในประเทศพม่า อย่างไรก็ดีเมื่อพระเจ้าปะดุงสิ้นพระชนม์ใน พ.ศ. 2362 เจดีย์องค์นี้ก็ถูกทอดทิ้งไม่มีการสร้าง คงเหลือไว้เป็นกองอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากนั้นชม ระฆังยักษ์มิงกุนซึ่งพระเจ้าปะดุงทรงทำไว้ คือระฆังสัมฤทธิ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพม่า น้ำหนักประมาณ 90 ตัน ระฆังนี้สูง 4 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ปากกว้างราว 5 เมตร นับว่าเป็นระฆังที่แขวนอยู่ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก พระเจดีย์สินพยุเม ซึ่งพระเจ้าพะคยีดอทรางทำใน พ.ศ. 2359 ก่อนที่จะจะเสด็จขึ้นไปเสวยราชย์ เจดีย์องค์นี้เปรียบเสมือนพระเจดีย์จุฬามณีซึ่งตั้งอยู่เหนือเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางของจักรวาลตามความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องไตรภูมิในพุทธศาสนา

พระเจ้าพะคยีดอทรงสร้างอุทิศแด่พระชายาคือ เจ้าผู้หญิงสินพยุเมที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว แม้จะจะถูกทำลายโดยแผ่นดินไหว แต่ก็ได้รับการซ่อมแซมและทุกวันนี้ยังคงอยู่ในสภาพดี มัณฑะเลย์ เคยเป็นราชธานีของเขตพม่าบน แต่กลับมีอายุเก่าแก่ ไม่ถึง 150 ปี ดี พร้อมกับเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เมือง ของพม่าที่คงคง ใช้นามเดิมเรื่อยมาโดยไม่มีการปรับแต่งคำเรียกจัดหาแต่อย่างใด นาม มัณฑะเลย์ ได้ยินดูเก่าแก่โบราณพอๆ กับ แม่น้ำเอยาวดี (อิระวดี) ที่ทอดสาย ไหลเอื่อยผ่านตัวเมืองแห่งนี้ เสน่ห์ของมัณฑะเลย์ อยู่ที่การเป็นราชธานีแห่งสุดท้ายของ พระราชวงศ์พม่า หมู่สถูปเจดีย์ ที่มีให้เห็นอยู่ทั่ว ทุกหนทุกแห่ง พร้อมทั้งมนุษย์ที่มีชีวิตชีวา เปี่ยมไปเช่นกัน น้ำใจไมตรี มัณฑะเลย์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงย่างกุ้ง ห่างเหินขึ้นไปมา 620 กิโลเมตร พร้อมกับอยู่สูง เหนือระดับน้ำทะเล 80 เมตร ชาวพม่าถือว่า ตราโลโก้ทางประเพณีและพุทธศาสนา ทั้งในโบราณกาลและเดี๋ยวนี้ ของพม่า เป็นมัณฑะเลย์ใจกลางเมืองมี ท้องตลาดเซโจ เป็นศูนย์กลาง การค้าขาย ในเขตพม่าบนช่างฝีมือของที่นี่ ผลิตงานฝีมือตามวิธีโบราณ อีกด้วยทอง เงิน หินอ่อน กับสิ่ว เส้นด้าย พร้อมทั้งหูกทอผ้า สองฝั่งน้ำเอยาวดี มีท่าเรือคั่นอยู่เป็นระยะ เรือขนข้าวขึ้นไปล่องผ่านไปมา ไม่ขาดสาย มัณฑะเลย์ เคยเป็นราชธานีของเขตพม่าบน แต่กลับมีอายุเก่าแก่ไม่ถึง 150 ปีดี พร้อมด้วยเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่เมืองของพม่า ที่คงยัง ใช้นามเดิมเรื่อยมาโดยไม่มีการปรับแต่งคำเรียกแต่อย่างใด ชื่อมัณฑะเลย์ ฟังดูเก่าแก่โบราณพอๆกับ แม่น้ำเอยาวดี(อิระวดี) ที่ทอดสายไหลเอื่อยผ่านตัวเมืองแห่งนี้ เสน่ห์ของมัณฑะเลย์ อยู่ที่การคือราชธานีแห่งสุดท้ายของพระราชวงศ์พม่า หมู่สถูป -เจดีย์ที่มีให้เห็นอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง พร้อมด้วยผู้คนที่มีชีวิตชีวาเปี่ยมไปด้วยน้ำใจ ไมตรีมัณฑะเลย์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงย่างกุ้ง ห่างเหินขึ้นมา 620 กิโลเมตร พร้อมทั้งอยู่สูงเหนืออันดับน้ำทะเล 80 เมตร ชาวพม่าถือว่าตราโลโก้ทางวัฒนธรรมและพุทธศาสนา ทั้งในสมัยก่อนพร้อมทั้งสมัยปัจจุบันของพม่าคือมัณฑะเลย์ ใจกลางเมืองมี ท้องตลาดเซโจ คือศูนย์กลางการค้าในเขตพม่าบน ช่างฝีมือของที่นี่ ผลิตงานฝีมือตามกรรมวิธีโบราณ เช่นกันทอง เงิน หินอ่อน กับสิ่ว เส้นด้าย พร้อมด้วยหูกทอผ้า สองฝั่งน้ำเอยาวดี มีท่าเรือคั่นอยู่คือระยะ เรือขนข้าวขึ้นล่องผ่านไปมา ไม่ขาดสาย สถานที่ท่องเที่ยวในมัณฑะเลย์เจดีย์เจาตอจี (Kyauktawgyi Pagoda ) หรือไม่เรียกว่า วัดหินใหญ่ ภายในมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่แกะสลักจากหินอ่อนก้อนเดียว เนินเขามัณฑะเลย (Mandalay Hill ) มีความสูง236 เมตร ซึ่งทางขึ้นไปคือบันไดที่มีหลังคาทอดตัวขึ้นสู่ยอดเขาทั้งหมด 1,729 ขั้น พร้อมด้วยศาลเล็ก ๆ ตั้งอยู่คือระยะ ๆ มีอยู่หลายหลังที่คือผลงานของฤาษีอู่ขั้นตี่ ผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งบนยอดเขามีวิหารหลังใหญ่แห่งแรกที่บรรจุพระบรมธาตุสามองค์ ของพระพุทธเจ้าไว้ คุณจะก็จะสามารถเห็นทัศนียภาพของตัวเมืองมัณฑะเลย์ ยามวีคอัสดงได้อย่างแจ่มแจ้ง สะพาน อูเป็ง ( U Bien Bridge ) คือสะพานที่สร้างขึ้นไปจากไม้สักที่นำมาจาก พระราชวังในเมืองอังวะ ที่สร้างขึ้นเมื่อ 200 กว่าปี ที่แล้วมีความยาว 1.2 ก.ม

ทัวร์จอร์แดนพาชมสถานที่น่าเที่ยวที่อควาบา

jordan-018

ทัวร์จอร์แดน พาคุณๆไปชมความสวยงามและอลังการ ณ เมืองอควาบา อย่างแน่นอน ไปเที่ยวทัวร์จอร์แดน ทั้งที่มีหรือเปล่าจะน่าจะส่งผลให้ท่านๆผิดหวัง วันนี้ขอพาไปชมน้ำจิ้มจุดไฮไลท์ในเมืองอควาบากันซะก่อน
•    วิหารเฮอร์คิวลิส ที่สันนิษฐานว่าน่าจะอาจจะถูกทำขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161–180 ในสมัยโรมันพระราชวังเก่าอุมเมยาด สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิมของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามา ปกครองประเทศชาติจอร์แดนซึ่งภายในประกอบห้องสร้างงาน, ห้องรับแขก ฯลฯ ผ่านชม พระราชวังของพระมหากษัตริย์อับดุลลาห์ที่สอง (RAGHADAN PALACE),ที่ตั้งอยู่บนภูเขามี ทำเลที่สวยงามหลายๆที่สุดในกรุงอัมมานพร้อมทั้งมีทหารเฝ้ารอเฝ้าดูแลรับใช้ตรวจตราอย่างเข้มงวด
•    น้ำพุใจกลางเมือง (NYMPHAEUM) ทำในราวปี ค.ศ. 191 เพื่อที่จะอุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งคือที่ยกย่อง ของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด พร้อมด้วยตกแต่งอีกด้วยเทพอื่นๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุ ฯลฯ
•    ปราสาทคารานา  สร้างขี้นเพื่อจะใช้คือที่อาศัยของกองคาราวานที่หยุดอาศัยระหว่างการเดินทางภายใน ประกอบด้วยห้องอาศัยอยู่ปริมาณ 61 ห้อง แบ่งเป็น 2 ชั้น พร้อมด้วยคงมีคอกที่อยู่พักอาศัยของม้า พร้อมทั้งอูฐ
•    นครเจอราช (JERASH) หรือเปล่า “เมืองพันเสา”เป็นสมัยก่อน 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมันสันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะอาจถูกสร้างใน ราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาลเดิมทีในอดีตกาลเมืองแห่งนี้ชื่อว่า ในปี ค.ศ. 749นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ทำลายพร้อมกับถูกฝังกลบโดยทรายต่อจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี
•    ป้อมอาซรัก สร้างขึ้นไปโดยหินภูเขาไฟสีดำทั้งหลายในสมัยโรมันป้อมแห่งนี้ได้คือที่รู้จักของคนทั่วไป คือเป็นศูนย์บัญชาการกองทัพของชาวอาหรับในสมัยนั้น นำโดยนายทหารชาวอังกฤษทีอี ลอเรนท์ หรือเปล่า ที่ชาวโลก รู้จักกันในชื่อของ ลอเรนท์ ออฟอาระเบียในการทำ ศึกสงครามโลกอาหรับ (THE ARABREVOLT ใน ระหว่างปี ค.ศ. 1916–1918)เป็นการต่อสู้ของชาวอาหรับที่ขัดขวางการเข้ามารุกรานแผ่นดินของชาวออตโตมัน
•    ทะเลเดดซี (Dead Sea)หรือไม่ ทะเลเสียชีวิต (อังกฤษ: Dead Sea; อาหรับ: البَحْر المَيّت‎, อัลบะฮฺรุ อัลมัยยิต,ฮีบรู: יָם הַ‏‏מֶ‏ּ‏לַ‏ח‎, ; ยัม ฮาเมลาห์ (ทะเลเกลือ)) คือทะเลสาบน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมากมาย อยู่ระหว่างเขตจอร์แดนพร้อมกับอิสราเอล ระดับน้ำอยู่ต่ำที่สุดในบรรดาทะเลทั้งหลาย กล่าวเป็นต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางลง ไปอีกประมาณ 400 เมตร ตอนเหนือคือของจอร์แดน ตอนใต้แบ่งเป็นของจอร์แดนพร้อมทั้งอิสราเอล แต่หลังสงครามอาหรับอิสราเอล กองทัพอิสราเอลยังยังครอบครอบพื้นที่ฝั่งตะวันตกทั้งหลายอยู่ ทะเลเดดซีอยู่ระหว่างเทือกเขายูเดียที่ด้านเหนือ และที่ราบสูงทรานสจอร์แดนที่ด้านตะวันออก แม่น้ำจอร์แดนจะน่าจะไหลจากทางเหนือมายังทะเลเดดซีนี้ ซึ่งมีความยาว 80 กิโลเมตร และมีความกว้างถึง 18 กิโลเมตร ส่วนอาณาเขตนั้น 1,020 ตารางกิโลเมตร แหลมอัลลิซาน (แปลว่า ลิ้น) แบ่งทะเลสาบด้านตะวันออกเป็นสองส่วน ตอนเหนือใหญ่กว่า ล้อมรอบพื้นที่ 3/4 ของพื้นที่ทั้งหมด ส่วนความลึกนั้นประมาณ 400 เมตร แอ่งตอนเหนือนั้นเล็ก พร้อมทั้งตื้น (ลึกประมาณ 3 เมตร) ในสมัยที่บันทึกคัมภีร์ไบเบิล จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 8 บริเวณพื้นที่ตอนเหนือแค่นั้นที่มีผู้อยู่อาศัยอยู่ พร้อมกับอันดับน้ำต่ำกว่าในสมัยปัจจุบัน 35 เมตร ทะเลเดดซี (Dead Sea) คือทะเลที่อยู่ต่ำที่สุดในโลก พร้อมด้วยคือสถานที่ท่องเที่ยวนามดังของประเทศจอร์แดน เพราะมีความเค็มระดับสูง ส่งผลให้ทุกคนที่ลงไปในทะเลไม่มีวันจม จะจะลอยอยู่ตลอดเวลา

เยี่ยมชมตลาดปราบเซียนในบาหลี

bali-015

เพื่อที่จะบทความทัวร์บาหลีในตอนนี้ขอพาบรรดาลูกทัวร์บาหลีของข้าพเจ้าทุกท่านไปปรับแต่งบรรยากาศจากการทัวร์วัด ทัวร์วัง ทัวร์ธรรมชาติ มาเป็นการไปเดินเยี่ยมชมตลาดและคิดวิเคราะห์ซื้อของซื้อของขายในบาหลีกันบ้างครับ

               คือที่ทราบกันดีในหมู่ของบรรดานักท่องเที่ยวบาหลีทั้งในพร้อมทั้งนอกประเทศว่าบาหลีในทุกวันนี้นั้นคือแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความความนิยมจากประชากรทั่วโลกดังนั้นในแต่ละวันจึงมีคนเดินทางมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสายมากมายซึ่งนั่นก็หมายความถึงการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจของบาหลีที่มีมากๆขึ้นไปอีกด้วย

               ในทุกวันนี้บาหลีมีร้านขายของรวงที่ค้าขายของซื้อของขายประเภทอื่นๆเกิดขึ้นมากจากเดิมที่มีแค่เพียงแค่ร้านจัดจำหน่ายของประจำท้องถิ่นหรือเปล่าของที่ระลึกแค่นั้นแต่ในสมัยปัจจุบันมีทั้งสินค้าแบรนด์เนม ร้านขายของอาหาร ร้านเสื้อผ้าชื่อดังต่างๆ เข้ามาลงทุนเพื่อหวังทำกำไรจากนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่น่าคือห่วงกันว่าในคราวหน้าภาพของท้องตลาดพื้นบ้านหรือเปล่าร้านค้าขายพื้นเมืองที่เคยมีนั้นอาจจะจะคงจะสูญหายไปเหลือเพียงแต่ห้างหรือเปล่าซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ เข้ามาแทนที่

               แต่เพื่อให้คนที่กำลังจะอาจไปเยือนบาหลีในระยะเวลาอันใกล้นี้เราขอเสนอให้ทุกคุณแวะไปเดินชมท้องตลาดขจัดเซียนที่ขึ้นชื่อของบาหลีด้วยเนื่องจากท้องตลาดแห่งนี้ยังยังกลิ่นอายของท้องตลาดแบบดั้งเดิมไว้ไม่มีอัพเดท นักท่องเที่ยวสามารถเดินตัดสินใจซื้อของต่างๆ ที่เซทขายอยู่บนพื้นฟุตบาทใช่หรือไม่ร้านค้าที่อยู่อาณาเขตตลาดได้โดยสะดวกสบายแต่ไฮไลท์ที่เด็ดที่สุดของท้องตลาดแห่งนี้ก็คือเรื่องการต่อราคาที่บอกได้เพียงแค่ว่าถ้าใครต่อฉลาด ต่อเป็นก็จะอาจได้ของดีในราคาที่ถูกหลายๆๆ ครับ

สถานที่ท่องเที่ยวในตุรกี ที่น่าสนใจ

turkey-015

ทัวร์ตุรกีของฉันจะอาจจะพาคุณไปเที่ยวตุรกีและต่อที่เมืองอิสตันบูล อยากรับรู้จริงๆว่าเมืองแห่งนี้มีมนต์เสน่ห์อะไร ใครๆถึงได้มาเที่ยวกันหลายครั้ง งั้นก็จะต้องไปพิสูจน์อีกด้วยตัวคุณเองแล้ว

เมืองโบราณเฮียราโปลิส (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนพักอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโปลิสคือบ่อน้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมปามุกคาเล สถานที่สำคัญต่างๆนาๆ อาทิ พิพิธภัณฑ์ปามุกคาเล โรงอาบน้ำโรมันซากโบสถ์สมัย ไบแซนไทน์ พร้อมด้วย ฐานวิหารอะพอลโล โรงมหรสพโรมัน เป็นต้น

อัฟโฟรดีซิอัส (Aphrodisias) หรือเปล่า เกย์เร (Geyre)  ย้อนไปตั้งแต่ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ในตอนต้นของยุคโลหะ แต่เมืองเริ่มทำเมื่อช่วง 100 ปีก่อนคริสตกาล เพื่อจะอุทิศให้วีนัส และชื่อของเมืองได้มาจากอโพรได (Aphrodite) หรือไม่ วีนัส (venus) เทพีแห่งความงามพร้อมกับความบริบูรณ์

 บอตตีเชลล ีเขียนภาพวีนัสหรืออะโพรไดต์จากมหากาพย์ที่เล่าขานกันว่า เธอถือกำเนิดมาจากฟองคลื่นของท้องทะเล (Aphros มาจากภาษากรีก หมายถึง ฟองคลื่น) ภาพหญิงสาวสาวเปลือยเปล่ายืนบนเปลือกหอย เรือนผมสีทองปลิวสยายไปกับสายลม โดยมีเซไฟร์ (Zephyr) เทพแห่งสายลมพัดพาเธอไปคงเกาะไซปรัสก่อนพาขึ้นไปเขาโอลิมปัส (Olympus)   ประเด็นการคิดวิเคราะห์อะโฟรไดต์เป็นเทพีประจำเมืองนั้น นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า มาจากธรรมเนียมบูชาเทพเจ้าเพื่อเรียกร้องความอุดมสมบูรณ์จากธรรมชาติ โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรมเพื่อให้พืชผลงอกงาม พร้อมด้วยด้านกสิกรรมเพื่อสัตว์เลี้ยงตกลูกได้เยอะ  เมื่ออัฟโฟรดีซิอัสตกคือของไบแชนไทน์ วิหารวีนัสได้ถูกเปลี่ยนคือโบสถ์คริสต์ ต้นศตวรรษที่ 19 นักโบราณคดีชาวอิตาลีพร้อมกับฝรั่งเศสเข้ามาทำการสำรวจ พร้อมทั้งมีการสำรวจอีกครั้งภายหลังเกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1956 โดยสหรัฐอเมริกาพร้อมกับตุรกีเอง ส่งผลให้ค้นพบโบราณสถานหลายๆดังที่เห็นในเดี๋ยวนี้

 โบราณสถานสร้างอย่างมีศิลปะ ที่ไม่น่าพลาดชมเป็น โรงละครโบราณสมัยเฮเลนนิสติก วิหารของเทพีวีนัส ผู้เป็นเทพธิดาประจำเมือง สนามแข่งม้าอายุราว 2,000 ปี ที่จุผู้ชมได้มากๆถึง 30,000 คน พร้อมกับโรงอาบน้ำฮาเดรียน (Baths of Hadrian) ในยุคโรมันเมืองนี้คือที่ตั้งของโรงเรียนฝึกสอบการแกะสลัก

สิ่งที่สัมผัสได้จากหนังสบายดีหลวงพระบาง

lao-009

ผมเชื่อเหลือเกินครับว่าบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งหลายที่ได้มีโอกาสดูภาพยนตร์ไทยเรื่องสบายดีหลวงพระบางที่ใช้ประเทศลาวเป็นโลเกชั่นถ่ายทำแทบอยากจะไปทัวร์ประเทศลาวเมื่อได้ดูหนังจบอย่างแน่นอนเพราะสาเหตุที่ว่าสาวประเทศลาวที่คัดมาแสดงนั้นล้วนแล้วแต่น่ารักๆ ทั้งสิ้นจนถึงขนาดมีการตั้งกลุ่มสมาคมผู้นิยมรักสาวลาวกันในโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook กันเลยทีเดียวเชียวครับ

               แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นสาวเชื้อชาติหรือชนชาติใดก็ตามย่อมต้องมีปะปนทั้งน่ารักและไม่น่ารัก ทั้งสวยและหย่อนสวยด้วยกันทั้งสิ้นซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาครับที่บรรดาหนังทุกเรื่องมักเลือกเอาคนหล่อ คนสวย คนน่ารักเป็นตัวชูโรงด้วยกันทั้งสิ้น

               แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้มองนอกเหนือจากความน่ารักของสาวลาวในเรื่องสบายดีหลวงพระบางนี้ก็คือบรรดาขนบธรรมเนียมและข้อปฏิบัติต่างๆ ของชาวลาวที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้ต่างหากเพราะมันได้แสดงออกถึงวิถีชีวิตและกลิ่นอายความเป็นวัฒนธรรมของชาวลาวที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันที่นักท่องเที่ยวที่ไปทัวร์ลาวสามารถพบเจอและมีโอกาสได้สัมผัสจริงไม่ใช่เป็นแค่เรื่อง Fake ที่แต่งขึ้นมาเพื่อสร้างสีสันเหมือนหนังทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายแบบชาวบ้านที่คนลาวในชีวิตจริงเขาก็แต่งกายเช่นนั้น ธรรมเนียมการเข้าวัดและการกราบพระของชาวลาวที่ไม่สามารถพบได้ในประเทศไทย รวมไปถึงวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่ต้องบอกว่าคนลาวเขากินกันแบบนี้จริงๆ ไม่ใช่จัดแค่ให้ดูสวยงามแต่นักแสดงต้องกินกันจริงๆ ได้อีกด้วย เหล่านี้เป็นต้น

               ดังนั้นผมจึงขอแนะนำให้ผู้ที่กำลังคิดจะไปทัวร์ลาวที่ยังไมได้มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไปหามาดูให้ได้เสียก่อนผมรับรองครับว่าเมื่อดูจบแล้วการไปทัวร์ลาวของคุณจะมีค่าและน่าจดจำอีกมากมายก่ายกอง ฟันธง!

เตรียมพบกับโฉมใหม่ของ Mini Cooper

car-0005วันนี้ราคารถใหม่ จะพาคุณๆมาดูแบรนด์ในเครือ เชื้อชาติอังกฤษ อย่าง MINI ซึ่งในปี 2013 ที่ผ่านมา การเปิดตัวPaceman หรือเวอร์ชัน Coupe ของ Countryman คือรุ่นสุดท้ายในตระกูล MINI ยุคใหม่ เจเนอเรชันที่ 2 ที่เปิดตัวในเมืองไทย แต่ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ไป MINI จะมีการเปลี่ยนแปลงตามมาเป็นระลอกๆ  แต่เป็นอย่างไรนั้นตามราคารถใหม่ มาชมได้เลย

 เริ่มจากในปี 2013 MINI Generation 3 เปิดตัวครั้งแรกในโลก เรียบร้อยแล้วใน งาน Tokyo Motor Show เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมกับ L.A Auto Show  ช่วงแรกที่เปิดตัวจะมี 2 รุ่นให้เลือก คือรุ่น Cooper มาตรฐาน ขุมพลังใหม่ล่าสุด เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พ่วง Turbocharger 136 แรงม้า (HP) ที่ 4,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ที่ 1,250 รอบ/นาที ส่วนรุ่น Cooper S เปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น เป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ 192 แรงม้า (HP) ที่ 4,700 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ที่ 1,250 รอบ/นาที ทั้ง 2 ขุมพลัง จะจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ  เวอร์ชันไทย รอเจอกันได้ในช่วงต้นปี 2014 ที่จะถึงนี้ ผ่านการนำเข้าอย่างรวดเร็วฉับไวราวกับกลัวตกรถไฟ ของ BMW Thailand

 สำหรับในช่วงปี 2014 – 2015 ตัวถัง Clubman จะตามมาเป็นลำดับที่ 2 คราวนี้ BMW ตัดสินใจ ใส่ประตูคู่หลัง มาให้แบบรถยนต์ปกติทั่วไปกับเขาเสียที ตัวถัง ที่ยาวขึ้นอีกเล็กน้อย จะช่วยให้นั่งโดยสารบนเบาะหลังสบายขึ้นอีกนิด  แต่ สิ่งที่ต้องจับตามองคือ ในปี 2016 เราอาจได้เห็น MINI Saloon เวอร์ชัน Sedan 4 ประตู ที่ทำออกมาเพื่อเอาใจตลาดอเมริกาเหนือโดยเฉพาะ มาลุ้นกันดีกว่า ว่ามีสิทธิ์จะเข้ามาขายในบ้านเรากันหรือไม่ อาจต้องรอจนถึงปี 2017 ซึ่งยังยากจะคาดเดา แต่เราชาวราคารถใหม่ จะตามติดมารายงานสุดไม่ให้พลาดเลย

พาชื่นชมความสวยงามของพระราชวังโปตาลา (Potala Palace)

china-0006

พอทัวร์จีนมาชวนไปเที่ยว หลายๆท่านจะบอกว่ากลัวไปเที่ยวที่เที่ยวแบบเดิมๆ อย่างเช่น สุสานจิ๋นซี พระราชวังต้องห้าม เป็นต้น  แต่คราวนี้ทัวร์จีนจะพาคุณไปเที่ยวชมความสวยงามของที่อื่นกัน รับรองว่าหลายๆท่านอาจยังไม่เคยไปหรือแม้แต่ได้ยินชื่อ

พระราชวังโปตาลาซึ่งตั้งอยู่บนความสูง ประมาณ 300 เมตร บนยอดเขาแดง พระราชวังปู้ต้าลาแห่งนี้มีประวัติ อันยาวนานมากว่า 1,300 ปี ที่มีความสวยงาม และอลังการมาก มีห้องมากกว่า 1,000 ห้อง ซึ่งนับว่าเป็นศิลปะสุดยอดฝีมือที่สวยงามที่สุดของธิเบต ภายในพระราชวังปู้ต้าลานี้จะมีอาคาร 13 ชั้น สูงประมาณ 400 เมตร   สร้างขึ้นมาในคริสตวรรษที่ 7 โดยกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของธิเบต ที่รวบรวมชาวธิเบตให้เป็นอันหนี่งอันเดียวกันได้สำเร็จ คือ กษัตริย์ ซงเซินกัมโก ซึ่งแรกเริ่มก็เพียงแต่จะสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นป้อม และตำหนักเล็กๆให้แก่พระมเหสีชาวจีน และชาวเนปาล ของพระองค์เท่านั้น แต่ต่อมาทรงใช้ป้อมยามแห่งนี้เป็นสถานที่ในการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากที่พระองค์ได้เปลี่ยนความเชื่อถือจากการนับถือลัทธิบอน อันเป็นความเชื่อถือเก่าแก่แต่โบราณกาลของชาวธิเบตในสมัยนั้นเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และทำให้พระพุทธศาสนา เริ่มวางหลักปักฐานในธิเบต และเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาตามลำดับในสมัยของพระองค์ท่าน  จนกระทั่งมีพระเป็นผู้ปกครอง ปัจจุบันนี้รูปทรงเดิมของป้อมและพระตำหนักดังกล่าวสองหลังนี้ก็ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง ท่ามกลางสิ่งก่อสร้างที่ตบแต่งเพิ่มเติมใหม่ ที่ต่อเติมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับสิ่งที่บูรณะซ่อมแซมเพิ่มเติม ในช่วงหลังๆมานั้นส่วนใหญ่จะซ่อมแซมบูรณะในสมัยขององค์ดาไลลามะที่ 5 ประมาณปี พ.ศ. 2188 ถึง 2236 ( องค์ดาไลลามะองค์ปัจจุบันนี้คือองค์ที่ 14 ) เพื่อให้เป็นพระราชวังฤดูหนาว พระราชวัง ปู้ต้าลาแห่งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนของพระราชวังสีขาว สีแดง และสีเหลือง

พระราชวังสีขาวนั้นเป็นส่วนของ สังฆวาส สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของพระสงฆ์ โรงเรียน และโรงพิมพ์ ส่วนอีกส่วนหนึ่งที่เป็นสีแดงนั้นจะเป็นส่วนของพุทธาวาส สำหรับปฏิบัติกิจของสงฆ์ ประกอบไปด้วย สถูปทองซึ่งภายในบรรจุพระศพขององค์ดาไลลามะทั้ง 8 องค์เอาไว้ ที่ประชุมสงฆ์ พระวิหาร โบสถ์ และห้องสมุดที่ใช้เก็บพระไตรปิฏก อาคารทั้งสองส่วนจะถูกเชื่อมโยงด้วยส่วนของอาคารที่เป็นสีเหลือง

ข้าวมันไก่สิงคโปร์

singapore-0005

บทความในตอนนี้ขอคั่นบรรยากาศการพาทัวร์สิงคโปร์ของท่านทั้งหลายด้วยการพาไปรู้จักกับอาหารที่ขึ้นชื่อมากชนิดหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ที่ต้องเรียกได้ว่าใครก็ตามที่ได้มาเยือนประเทศสิงคโปร์เป็นอันต้องแวะชิมทุกรายไม่ว่าจะเป็นคนที่ไปทัวร์สิงคโปร์ด้วยตัวเองหรือไปกับกรุ๊ปทัวร์ บริษัททัวร์ก็ตามที ซึ่งอาหารที่ผมว่านี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ “ข้าวมันไก่”

               หลายคนที่ได้เคยอ่านหนังสือประเภท guide book ที่พาทัวร์สิงคโปร์ย่อมจะทราบดีว่าข้าวมันไก่ของสิงคโปร์นั้นเขามีชื่อมากที่สุดและถือว่าเป็นต้นตำรับในแถบเอเชียเลยก็ว่าได้ครับ โดยย่านเศรษฐกิจและย่านนักท่องเที่ยวสิงคโปร์เกือบทุกแห่งมักจะมีร้านขายข้าวมันไก่เปิดขายอยู่หลายเจ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งย่าน orchard มีให้เลือกกันนับเป็นสิบๆ ร้านเลยทีเดียวครับ

               ไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปอย่างชัดเจนว่าเหตุอันใดข้าวมันไก่สิงคโปร์จึงได้ชื่อว่าอร่อยที่สุดในโลกทั้งที่ในความเป็นจริงข้าวมันไก่อร่อยๆ ในบ้านเราก็มีให้เห็นกันอยู่เยอะแยะไปแต่จากตำนานเล่าขานกันมาพอจับใจความได้ว่าในสมัยที่สิงคโปร์ยังไม่เจริญนั้นชาวจีนไหหลำได้อพยพเข้ามายังประเทศสิงคโปร์และได้นำวิชาการทำข้าวมันไก่มาเผยแพร่ให้คนที่สิงคโปร์ได้รับรู้ ชาวสิงคโปร์ชอบข้าวมันไก่ในแบบไหหลำมากจึงได้ร่ำเรียนและนำมาดัดแปลงจนเป็นเอกลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ในที่สุด

               หากจะถามว่าข้าวมันไก่ในประเทศสิงคโปร์เจ้าไหนบ้างที่อร่อยๆ คงต้องบอกตามตรงว่ารสชาติไม่ห่างกันมากนักเพราะเนื่องจากเป็นสูตรเดียวกันแต่ในเรื่องของน้ำจิ้มนั้นเชื่อว่าของทางบ้านเราได้รสชาติมากกว่าครับ

ชมความงามเมืองเวนิส (Venice)

europe-0005

สำหรับใครกำลังวางแผนไปถ่ายพรีเวดดิ้งหรืออยากได้บรรยากาศสวยไว้ถ่ายภาพติดฝาผนังประดับบ้าน  หรือถ้าแค่จะพักผ่อนกับบรรยากาศสวยงามโรแมนติด  ไปกับทัวร์ยุโรปวันนี้เลยจ้ะเพราะเรากำลังจะพาคุณไปชมความงามของเมืองเวนิส  ต้นตำรับการล่องเรือเที่ยวตลาดน้ำอย่างเวเนเซียของไทยกัน

     เมืองเวนิส หรือที่ชาวอิตาลีเรียกว่า เวเน็ตเซีย ( Venezia)เป็นเมืองหลวงของแคว้น เวเนโต(Veneto)มีประชากร 271,663 คน (ข้อมูลวันที่ 1 มกราคม 2004 )เมืองเวนิสสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กเกาะน้อย จำนวน 118 เกาะเข้าด้วยกันในบริเวณ ทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ทะเลอาเดรียติกทางภาคเหนือของ ประเทศอิตาลี ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งระหว่างปาก แม่น้ำโปกับ แม่น้ำพลาวิ มีผู้อยู่อาศัยนับรวมทั้งหมดประมาณ 272,000 คน แยกเป็นบริเวณเมืองเก่าที่เป็นเกาะ 62,000 คน, บนแผ่นดินใหญ่ที่เรียกว่า แตร์ราแฟร์มา (Terraferma) 176,000 คน และอีก 31,000 คนตามเกาะต่างๆ ในทะเลสาบ

     ในบรรดาเมืองท่องเที่ยวของอิตาลี เมืองเวนิส ดูจะเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะที่แตกต่างจากทุกเมืองในโลก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบที่สวยงามจนได้ฉายาว่าเป็น ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” ( The Queen of the Adriatic) หรือ เมืองแห่งสายน้ำ” (The City of Water) ที่มีคลองสำหรับใช้สัญจรแทนถนนมากกว่า 150 สาย หรือ เมืองแห่งสะพาน” ( The City of Bridges)ที่ มีสะพานเชื่อมคลองมากกว่า 400 แห่งที่โดดเด่นเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวอีกทั้งยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งศิลปวัฒนธรรมและดนตรียามค่ำคืน (The City of Light)ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและใฝ่ฝันอยากมาเทียวชมสักครั้งในชีวิตเมืองเวนิสเป็นที่รู้จักกันมาช้านานในประวัติศาสตร์ ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการเดินเรือและการค้าของทวีปยุโรปนับพันปี นอกนั้นในแวดวงวรรณกรรม เมืองเวนิสเป็นที่รู้จักจากบทประพันธ์ของวิลเลียม เชคสเปียร์( William Shakespeare)เรื่อง พ่อค้าแห่งเวนิส” ( The Merchant of Venice)ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงนำมาประพันธ์เป็นบทละครชื่อเวนิสวานิชแต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือบทประพันธ์เรื่องโรเมโอและจูเรียต”( Romeo and Juliet)ที่เชื่อกันว่าเวนิส คือบ้านเกิดของของทั้งคู่ผู้สร้างตำนานรักอมตะที่ต้องจบชีวิตลงเพราะความแค้นของบรรพบุรุษสองตระกูลเมืองเวนิสยังเป็นเมืองที่ได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกซึ่งได้แก่ ตัวเมืองและคลองต่างๆ ความงดงามของเวนิสทำให้ถูกใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง ส่วนคนไทยดูเหมือนจะรู้จักและเกี่ยวข้องกับเวนิสจากการที่กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมรของเราได้รับการเรียกขานว่าเป็น เวนิสตะวันออกดังนั้น การได้มีโอกาสมาเที่ยวชมเมืองเวนิสของจริง จึงอดตื่นตาตื่นใจในความงดงามและเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ของเมืองมรดกโลกแห่งนี้ไม่ได้